
รับเหมาติดตั้งระบบกันซึม
บริษัท แมทท์ เคมมี่ จำกัด
รับเหมาติดตั้งระบบกันซึม การ รับเหมาติดตั้งระบบกันซึม คือการให้บริการติดตั้งระบบกันซึมสำหรับอาคาร เพื่อป้องกันน้ำรั่วซึมที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ต่างๆ เช่น หลังคา, ดาดฟ้า, ผนัง หรือพื้นของอาคาร โดยการใช้วัสดุกันซึมที่มีคุณสมบัติป้องกันน้ำซึมเข้าไปในโครงสร้างและพื้นที่ภายในอาคาร ซึ่งมีความสำคัญมากในช่วงฤดูฝนหรือสภาพอากาศที่มีความชื้นสูง บริการติดตั้งระบบกันซึมที่สามารถรับเหมาได้ ติดตั้งระบบกันซึมหลังคา วัสดุที่ใช้: PU กันซึม, อีพ็อกซี่, ยางมะตอย, เมมเบรน (Membrane) ขั้นตอนการติดตั้ง: ตรวจสอบและทำความสะอาดพื้นผิวหลังคา ทาระบบกันซึมให้ทั่วพื้นผิวหรือใช้แผ่นเมมเบรนในการติดตั้ง ปิดรอยต่อและมุมที่มีโอกาสน้ำซึมเข้าด้วยวัสดุกันซึมที่เหมาะสม ติดตั้งระบบกันซึมดาดฟ้า วัสดุที่ใช้: PU กันซึม, เมมเบรนกันซึม, อีพ็อกซี่ ขั้นตอนการติดตั้ง: ตรวจสอบสภาพของดาดฟ้าและซ่อมแซมจุดที่มีรอยแตก ทำความสะอาดพื้นผิวให้เรียบร้อย ทาระบบกันซึมตามพื้นที่ที่กำหนด (สามารถทาหลายชั้นตามความจำเป็น) ติดตั้งแผ่นเมมเบรนกันซึมในจุดที่ต้องการ ติดตั้งระบบกันซึมผนังอาคาร วัสดุที่ใช้: PU กันซึม, อีพ็อกซี่, ซีลเลอร์กันซึม ขั้นตอนการติดตั้ง: ตรวจสอบและทำความสะอาดผนัง ทาระบบกันซึมที่ผนังในบริเวณที่อาจเกิดการรั่วซึม ตรวจสอบการยึดเกาะของระบบกันซึมให้ดี ติดตั้งระบบกันซึมพื้นอาคาร วัสดุที่ใช้: อีพ็อกซี่กันซึม, PU กันซึม ขั้นตอนการติดตั้ง: ตรวจสอบสภาพพื้นและทำการเตรียมพื้นผิวให้พร้อม ทาระบบกันซึมให้ทั่วพื้น ตรวจสอบการยึดเกาะของวัสดุกันซึม ติดตั้งระบบกันซึมในพื้นที่เฉพาะ (เช่น ห้องน้ำ, ห้องครัว) วัสดุที่ใช้: PU กันซึม, ซีลเลอร์, อีพ็อกซี่กันซึม ขั้นตอนการติดตั้ง: ทำความสะอาดพื้นที่ที่ต้องการติดตั้ง ติดตั้งวัสดุกันซึมในพื้นที่เฉพาะที่มีโอกาสน้ำรั่วซึม การเลือกวัสดุกันซึม Polyurethane (PU): วัสดุที่มีความยืดหยุ่นสูง ทนทานต่อสภาพอากาศและการขยายตัวของวัสดุอื่นๆ เหมาะสำหรับการใช้บนดาดฟ้า หลังคา และพื้น อีพ็อกซี่ (Epoxy): ทนทานต่อการเสียดสีและการขูดขีด เหมาะสำหรับการใช้ในพื้นที่ที่มีการใช้งานหนัก ยางมะตอย (Bitumen): ใช้ในการติดตั้งระบบกันซึมที่ต้องการความแข็งแรงและทนทานสูง เมมเบรนกันซึม (Membrane): ใช้ในการติดตั้งที่ต้องการป้องกันน้ำรั่วซึมในพื้นที่ใหญ่ เช่น ดาดฟ้า ขั้นตอนการติดตั้งระบบกันซึม การตรวจสอบและเตรียมพื้นที่: ตรวจสอบสภาพพื้นผิวที่ต้องการติดตั้งระบบกันซึม เช่น การทำความสะอาดพื้นผิว, ซ่อมแซมรอยแตก, ขจัดฝุ่นและคราบน้ำมัน ตรวจสอบจุดที่อาจเกิดการรั่วซึม เช่น รอยต่อ, รอยแตกร้าว, หรือรอยตะเข็บต่างๆ การทาระบบกันซึม: ทาระบบกันซึมให้ทั่วพื้นผิว โดยใช้แปรง, โรลเลอร์ หรือเครื่องพ่นตามความเหมาะสม หากต้องการความหนาของชั้นกันซึมมากขึ้น สามารถทาเพิ่มหลายชั้น โดยทิ้งให้แต่ละชั้นแห้งก่อน การติดตั้งเมมเบรนกันซึม: หากใช้แผ่นเมมเบรนกันซึม ติดตั้งแผ่นเมมเบรนบนพื้นผิวและยึดติดด้วยความร้อนหรือวิธีการที่เหมาะสม ติดตั้งแผ่นเมมเบรนให้เรียบร้อยและปิดรอยต่อให้แน่นหนา การตรวจสอบการติดตั้ง: ตรวจสอบการยึดเกาะของระบบกันซึมกับพื้นผิวให้ดี โดยอาจทำการทดสอบด้วยการฉีดน้ำหรือราดน้ำบนพื้นผิวที่ติดตั้ง การบำรุงรักษาหลังการติดตั้ง: ควรตรวจสอบและทำความสะอาดระบบกันซึมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อยืดอายุการใช้งานและรักษาประสิทธิภาพในการกันซึม ข้อดีของการติดตั้งระบบกันซึม ป้องกันน้ำรั่วซึม: ระบบกันซึมช่วยป้องกันไม่ให้น้ำซึมเข้าไปในอาคาร ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อโครงสร้างหรือทรัพย์สินภายใน เพิ่มอายุการใช้งานของอาคาร: การติดตั้งระบบกันซึมอย่างถูกต้องจะช่วยยืดอายุการใช้งานของอาคารโดยการป้องกันการเสื่อมสภาพจากน้ำ ลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา: การติดตั้งระบบกันซึมที่มีคุณภาพจะช่วยลดปัญหาน้ำรั่วซึมในอนาคต ทำให้ลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม ประหยัดพลังงาน: การติดตั้งระบบกันซึมในบางกรณีสามารถช่วยลดการสูญเสียความร้อนหรือความเย็นจากภายนอก ส่งผลให้ประหยัดพลังงาน